ประโยชน์การใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตต่างกันอย่างไร
ประโยชน์การใช้บัตรเดบิตในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปรวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นภาคธุรกิจรวมถึงหน่วยงานต่างๆก็ได้พยายามสร้างผลิตภัณฑ์สินค้ารวมทั้งบริการของตนเองออกมาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุดธุรกิจภาคการเงินการธนาคารก็เช่นเดียวกันที่ได้ออกแบบสินค้าและบริการออกมาให้สนองกับความต้องการของลูกค้าในที่นี้เราจะพูดถึงบัตรต่างๆที่ธนาคารนำเสนอออกมาให้ลูกค้าใช้เช่นบัตรเอทีเอ็ม (ATM) บัตรเครดิต(Credit Card)และล่าสุดคือบัตรเดบิต(Debit Card)ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์การใช้บัตรบัตรเดบิตกันเพราะถึงแม้ว่าธนาคารจะออกบัตรเดบิตมาให้ใช้ได้หลายปีแล้วแต่ก็ยังมีคนสงสัยกันอยู่ถึงความแตกต่างของบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตบัตรเดบิตก็คือ บัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของธนาคารที่เราไปเปิดบัญชีไว้
โดยประโยชน์การใช้บัตรเดบิตนี้เราสามารถนำมาทำรายการถอนเงินโอนเงิน สอบถามยอดเงินคงเหลือได้ที่ตู้เอทีเอ็มเหมือนกับบัตรเอทีเอ็มทุกประการแต่ที่พิเศษกว่านั้นคือประโยชน์การใช้บัตรเดบิตสามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า (รูดบัตร) รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ได้ด้วยคุณสมบัติจะเหมือนกับบัตรเดรดิต แต่บัญชีเงินฝากของเราจะโดนหักออกตามจำนวนที่ใช้ทันที่เมื่อมีการใช้บัตร (บัตรเครดิตซื้อก่อนจ่ายที่หลัง) วิธีการดูว่าบัตรที่เราถืออยู่เป็นบัตรเดบิตหรือเปล่าก็ให้ดูที่บัตรว่ามีเครื่องหมายVISA,Master Cardหรือไม่ถ้ามีแสดงว่าเรามีบัตรเดบิตแล้วต่อไปเราจะพูดถึงประโยชน์การใช้บัตรเดบิตกันบ้างเพื่อให้เราได้รับประโยชน์สูงสุด
ประโยชน์ของการใช้บัตรเดบิต
1. ใช้ได้ทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพต่อให้คุณไม่มีรายได้แต่คุณมีเงินไปเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารคุณก็มีสิทธิ์ถือบัตรเดบิต
2. สมัครง่ายดายเพียงแค่เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารทุกแห่ง
3. เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินคุณไม่ต้องพกเงินสดติดตัวมาก ลดความเสียหายจากการถูกขโมยหรือทำบัตรหาย
4. สามารถนำบัตรไปชำระค่าสินค้าหรือบริการแทนเงินสดกับร้านค้าได้โดยที่ร้านค้าจะมีเครื่องหมายรับชำระด้วยบัตรVisa หรือ Master Card คือรูดบัตรได้เหมือนบัตรเดรดิต
5. สะดวกสบายเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์กับร้านค้าออนไลน์ที่รับบัตรเดบิต
6. ใช้ได้ทุกการใช้จ่ายไม่มีขั้นต่ำแม้กระทั่งคุณจะซื้อสินค้าราคาแค่ 1 เหรียญ บัตรเดบิตก็สมารถจ่ายให้ได้แต่วงเงินสูงสุดที่ คุณ ใช้จ่ายจะมีเท่ากับเงินในบัญชีของคุณ
7. รายได้น้อยกว่า 15,000 บาท/เดือน ก็สามารถใช้บัตรเดบิตได้ ไม่เหมือนกับบัตรเครดิตที่คุณต้องยื่นหลักฐานสลิปเงินเดือนว่าคุณมีรายได้ 15,000 บาท/เดือน ธนาคารถึงจะพิจารณาออกบัตรให้
8.สำหรับคนที่ควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ได้ควรถือบัตรเดบิตไว้ดีกว่าเพราะการชำระสินค้าและบริการนั้นจะหักจากเงินในบัญชีเรา เลยถ้าไม่มีเงินในบัญชีก็จะไม่สามารถเบิกเงินสดหรือซื้อสินค้าและบริการใดๆได้แตกต่างจากบัตรเครดิตที่จะนำเงินจากธนาคารที่ถือบัตรไปชำระให้เราก่อนแล้วเราต้องไปชำระหนี้ในภายหลังแล้วยิ่งถ้าเราไม่สามารถชำระได้เต็มวงเงินที่ใช้ก็จะทำให้เราต้องเสียดอกเบี้ยกับทางธนาคารอีกด้วย
9. ได้รับข้อความ SMS จากระบบของธนาคารทุกครั้งเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรโดยข้อความนี้จะส่งมาที่เบอร์มือถือที่เรากรอกไว้เมื่อคราวสมัครบัตรเดบิตนั่นเองซึ่งเป็นการดีที่มีการแจ้งเตือนเราทุกครั้งเพราะถ้าหากเรารับรู้ว่ามีการใช้บัตรเดบิตของเราโดยผู้อื่นที่ไม่ได้รับอนุญาติเราจะได้ป้องกันการเสียหายได้ทัน
10.ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆเพิ่มเติมอันเนื่องมาจากการแข่งขันทางการตลาดของแต่ละธนาคารเพื่อชักจูงลูกค้าให้เลือกสมัครบัตรกับทางธนาคารนั้นเช่นได้รับความคุ้มครองตามการประกันชีวิตหรืออุบัติเหตุแม้กระทั่งสามารถโอนเงินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมตลอดปีเป็นต้นหลังจากอ่านประโยชน์ของการใช้บัตรเดบิตไปแล้วนั้นบัตรเดบิตน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการตัดสินใจของผู้ถือบัตร
แต่ทั้งนี้นอกจาก”ประโยชน์การใช้บัตรเดบิต”ที่เราได้รับแล้วก็ยังมีข้อควรระวังเกี่ยวกับบัตรด้วยเช่นกันเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าบัตรเดบิตที่ออกมาใหม่ๆจะมีสิทธิประโยชน์ที่ธนาคารเพิ่มขึ้นมาให้เช่นประกันอุบัติเหตุการโอนเงินฟรีโดยไม่เสียค่าธรรม
เนียมแต่เราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีมากกว่าบัตรเดบิตแบบธรรมดาที่ไม่พ่วงสิทธิพิเศษด้วยเช่น
ดังนั้นก่อนที่เราจะทำการตัดสินใจสมัครบัตรเดบิตชนิดใดก็ตามเราควรจะพิจารณาดูว่าประโยชน์การใช้บัตรเดบิตสิทธิ์ที่เพิ่มมานั้นเหมาะสมกับเราหรือเราต้องการจริงๆหรือไม่ มิฉะนั้นเราต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ