เก็บรักษารหัสบัตรเครดิตให้ปลอดภัย
บัตรเครดิตมีทั้งประโยชน์ในเรื่องของการสะดวกซื้อเพิ่มวงเงินใช้จ่ายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆโดยที่คุณไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใครมาให้วุ่นวายแต่สามารถหยิบยืมจากวงเงินในบัญชีของบัตรเครดิตได้ทุกเมื่อตราบเท่าที่วงเงินของคุณยังไม่ถูกจำกัด
รหัสบัตรเครดิต (PIN) มีไว้สำหรับกดถอนเงินสดจากบัตรเครดิตผ่านตู้เอทีเอ็ม
ในทางกลับกันบัตรเครดิตก็มีข้อเสียไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพิ่มอำนาจในการจ่ายเงินทำให้รายจ่ายต่อเดือนของคุณเยอะขึ้น การระแวงกลัวว่ารหัสบัตรเครดิต (PIN) ที่ใช้กดเงินสดออกจากบัตรเครดิตจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่นหรือมิจฉาชีพที่อาจนำรหัสบัตรของคุณไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มออกมาได้ นอกจากนี้การใช้บัตรเครดิตและจ่ายแบบชำระขั้นต่ำยังเป็นการเพิ่มดอกเบี้ยในการใช้จ่ายเงินเพราะทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรชนิดนี้ทางธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยโดยคำนวณจากเงินต้นที่ใช้จ่าย หรือเบิกถอนเงินสดออกไปในอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ทำให้คุณมีภาระที่ต้องหาเงินจ่ายคืนธนาคารมากกว่าเดิม
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้คนมากมายที่ประสงค์จะทำบัตรเครดิตไว้ใช้ยามฉุกเฉินเนื่องจากบัตรชนิดนี้ให้ผลดีมีประโยชน์ที่ยอมรับได้หากว่าคุณรู้จักการใช้บัตรอย่างถูกต้องและบริหารเงินเป็น
ข้อปฏิบัติในการเก็บรักษารหัสบัตรเครดิต (PIN)
แน่นอนว่านอกจากบัตรเครดิตที่คุณได้มาแล้วไม่ใช่ว่าเรื่องจะจบลงเพียงแค่นั้นเพราะขั้นตอนต่อมาของผู้ถือบัตรก็คือการเก็บรักษาบัตรและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บรักษารหัสบัตรเครดิต (PIN) ไว้เป็นความลับถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากๆ แม้แต่คนในบ้านก็ไม่ควรรู้รหัสบัตรเครดิตของคุณเพราะอาจทำให้คุณเสี่ยงที่จะถูกขโมยรหัสบัตรจากการบอกต่อของคนในบ้านนั่นเอง เพื่อรักษาความปลอดภัยของรหัสบัตรเครดิต เราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติดังนี้
- เก็บรักษาบัตรเครดิตไม่จำเป็นอย่าให้ใครรู้ว่ามี
- กำหนดวงเงินการสั่งจ่ายให้น้อยที่สุด หากมียอดเกินกว่าที่กำหนดให้ทางธนาคารโทรแจ้งก่อน
- หมั่นตรวจสอบรายการสั่งซื้อสินค้าและสั่งจ่ายจากบัญชีของผู้ถือบัตร ถ้ามียอดไม่ปกติให้รีบแจ้งเพื่อทำการระงับ
- อย่าบอกรหัสบัตรกับผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหรือแม้แต่คนที่คุณไม่ไว้ใจ
- ใส่ซองพลาสติกแยกบัตรไว้ต่างหากป้องกันการหยิบบัตรผิดใบและไม่ให้ใครเห็นรหัสบนบัตร
- สมัครสมาชิก Verified by VISA เพื่อกำหนดรหัสความปลอดภัยในการสั่งซื้อสินค้าทุกครั้ง
หากคุณไม่แน่ใจว่าบัตรเครดิตที่ถืออยู่ไม่ปลอดภัยหรืออาจมีบุคคลอื่นล่วงรู้ถึงรหัสบัตรเครดิต (PIN) ของคุณให้ติดต่อกับธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อแจ้งความจำนงเปลี่ยนบัตรใหม่ หลังจากได้บัตรมาแล้วก็ให้ระวังในเรื่องของรหัสบัตรเครดิตให้มากกว่าเดิมอาจจะดูคำแนะนำที่กล่าวไว้เบื้องต้นในการรักษาข้อมูลรหัสบัตรเครดิตของตนเองก็ได้
เรียบเรียงโดย Cardzoomer